วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

Gates Foundation Invests In Monsanto

มูลนิธิเก็ตส์ลงทุนในมอนซานโต
ทั้งสองจะได้รับผลประโยชน์บนหลังของชาวนาอาฟริกันรายย่อย


ซีแอตเติล วอชิงตันชาวนาและองค์กรภาคประชาสังคมทั่วโลกกำลังโกรธจัดกับการค้นพบรายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่าง มูลนิธิ บิลและเมลินดา เก็ตส์ กับยักษ์ใหญ่ในเกษตรพาณิชย์ มอนซานโต    สัปดาห์ก่อน เว็บไซท์การเงินแห่งหนึ่ง ได้พิมพ์เผยแพร่แฟ้มการลงทุนของมูลนิธิเก็ตส์ รวมทั้ง 500,000 หุ้นในมอนซานโต มีมูลค่าประมาณ 23.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งซื้อเมื่อจัตวามาสที่สองของปี 2010   นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดิมซึ่งมีมูลค่ากว่า 360,000 เหรียญสหรัฐฯเท่านั้น

การลงทุนตรงของมูลนิธิในมอนซานโต มีปัญหา 2 ประการ ดร. ฟิล เบรีอาโน ศาสตราจารย์กิติมศักดิ์และผู้เชี่ยวชาญทางวิศวพันธุกรรมแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตันกล่าว  ประการแรก มอนซานโตมีประวัติของการเพิกเฉยอย่างโจ่งแจ้งต่อผลประโยชน์และสวัสดิภาพของชาวนารายย่อยทั่วโลก ส่วนประวัติด้านสิ่งแวดล้อมก็น่าตกใจอย่างยิ่ง   ความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับมอนซานโต กลายเป็นเงามืด สร้างความแคลงใจต่อการทุ่มทุนเพื่อการพัฒนาเกษตรในอาฟริกา และเป้าหมายที่อ้างว่าเพื่อช่วยลดความยากจนและความหิวโหยในบรรดาชาวนารายย่อย  ประการที่สอง การลงทุนนี้ ชี้ให้เห็นถึงการมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างมหาศาล

มอนซานโตได้สร้างผลกระทบทางลบแก่เกษตรกรรมในบรรดาประเทศอาฟริกาแล้ว  ยกตัวอย่าง ในอาฟริกาใต้ ปี 2009 ข้าวโพดจีเอ็มของมอนซานโต ไม่สามารถเจริญให้เนื้อข้าวโพดได้ ทำให้ชาวนานับร้อยประสบหายนะ  มาเรียม มาเย็ต อัยการทางสิ่งแวดล้อมและผู้อำนวยการของ Africa Centre for Biosafety ในโจฮันส์เบิร์ก กล่าวว่า ชาวนาบางคนต้องประสบกับความล้มเหลวในการเก็บเกี่ยวมากถึง 80%  ในขณะที่มอนซานโตชดเชยให้ชาวนารายใหญ่ ผู้ซื้อตรงจากมอนซานโต ๆ ไม่ได้ให้อะไรเลยกับชาวนารายย่อยยกเว้นให้ถุงเมล็ดฟรี   เมื่ออำนาจเศรษฐกิจของเก็ตส์จับคู่กับความไร้ความรับผิดชอบของมอนซานโต  อนาคตของชาวนารายย่อยในอาฟริกาดูมืดมน มาเย็ตกล่าว   การดันทุรังจดทะเบียนลิขสิทธิ์ทางปัญญาอย่างก้าวร้าวของมอนซานโต ได้ทำให้มันผูกขาดการควบคุมเมล็ดอย่างเบ็ดเสร็จโดยชาวนาไม่มีทางจะควบคุมการเก็บเกี่ยวของตน มันได้ไปไกลถึงขั้นฟ้องร้องและทำให้ชาวนาล้มละลายในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์

ข่าวของการลงทุนของมูลนิธิในมอนซานโต ได้ยืนยันความสงสัยของชาวนาหลายคนและนักรณรงค์เกษตรยั่งยืนในอาฟริกา  อันมี Kenya Biodiversity Coalition รวมอยู่ด้วย ได้แสดงความเห็นว่า พวกเราได้สงสัยมานานแล้วว่า ผู้ก่อตั้ง AGRAมูลนิธิ บิลและเมลินดา เก็ตส์--มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นที่ยาวนานกับมอนซานโต  อันที่จริง ตามความเห็นของ ทราวิส อิงริช นักวิจัยของ AGRA Watch การที่มูลนิธิเป็นเจ้าของหุ้นของมอนซานโตเป็นสัญญลักษณ์ของความเกี่ยวข้องระดับลึกและยาวนานกับบรรษัทนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาฟริกา  ในปี 2008, AGRA Watch โครงการหนึ่งที่มีฐานอยู่ในซีแอตเติลเรียกว่า พันธมิตรชุมชนเพื่อความยุติธรรมโลก (Community Alliance for Global Justice) ได้เปิดโปงความเชื่อมโยงหลายอย่าง ระหว่างผู้รับทุนของมูลนิธิกับมอนซานโต  ยกตัวอย่าง ผู้รับทุนบางราย (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้รับทุน 70% ในเคนยา) ของพันธมิตรเพื่อปฏิวัติเขียวในอาฟริกา Alliance for a Green Revolution in Africa (AGRA)—ถูกจัดว่าเป็น ใบหน้าอาฟริกาของมูลนิธิ--ทำงานโดยตรงกับมอนซานโตในโครงการพัฒนาเกษตร  สายสัมพันธ์อื่นๆ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของมูลนิธิ ซึ่งเคยเป็นคนงานอาวุโสของมอนซานโต เช่น Rob Horsch อดีตรองประธานของมอนซานโตฝ่ายหุ้นส่วนการพัฒนาระหว่างประเทศ และปัจจุบัน เป็นคนงานโปรแกมอาวุโสของโปรแกมการพัฒนาเกษตรเก็ตส์

บรรษัทข้ามชาติเช่นมอนซานโต ได้เป็นประสานงานสำคัญของมูลนิธิและผู้รับทุนสนับสนุนจาก AGRA ในการส่งเสริมการขยายอุตสาหกรรมการเกษตรในทวีปนี้   โมเดลการผลิตนี้ต้องใช้วัสดุราคาแพง เช่น ปุ๋ยเคมี เมล็ดจีเอ็ม และยากำจัดวัชพืช   แม้ว่าวัสดุชุดนี้จะเป็นสิ่งล่อใจว่าเป็นโอกาสการเปิดตลาดสำหรับภาคเอกชน  องค์กรภาคประชาสังคมหลายแห่ง เถียงว่า มันจะนำไปสู่การเบียดขับชาวนาให้ออกจากที่ดินของพวกเขา  ทำให้เพิ่มความหิวโหย และเพิ่มการย้ายถิ่นเข้าเมืองที่บวมเป่งอยู่แล้ว และไม่มีโอกาสการทำงานแล้ว  ผู้แทนจาก Kenya Biodiversity Coalition กล่าวว่า AGRA เป็นยาพิษสำหรับระบบการทำนาและวิถีชีวิตของพวกเรา   ภายใต้ป้ายชื่อว่าเป็นผู้มีใจบุญสุนทาน ในการทำเกษตรสีเขียว AGRA จะเขมือบทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมทั้งสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่หลงเหลือเพื่อธำรงความยั่งยืนของชาวนารายย่อยในอาฟริกา

ในปี 2008 รายงานจากธนาคารโลกและยูเอ็น คือ the International Assessment of Agricultural Knowledge, Science and Technology for Development (IAASTD), สนับสนุนทางออกที่เป็นทางเลือกสำหรับปัญหาความหิวโหยและยากจน โดยเน้นที่รากเหง้าของสังคมและเศรษฐกิจ   IAASTD สรุปว่า แบบเกษตรนิเวศในการทำนารายย่อย เป็นทางออกที่เหมาะสมกับโลกที่สามมากกว่าโมเดลอุตสาหกรรมเกษตรที่เกษตรและมอนซานโตฝักใฝ่   ในบทสิ่งที่ค้นพบโดยย่อของ IAASTD  Pesticide Action Network North America (PANNA) เน้นถึงคำเตือนของรายงานชิ้นนี้ว่า การขืนพึ่งพาการเทคโนโลยีให้แก้ไขปัญหาแบบตื้นๆรวมทั้งการข้ามพันธุกรรมจะไม่ลดความหิวโหยและความยากจนที่เหนียวแน่น และจะเพิ่มความรุนแรงของปัญหาสิ่งแวดล้อม และทำให้สภาวะความเหลื่อมล้ำทางสังคมเลวร้ายยิ่งขึ้น  ยิ่งกว่านั้น PANNA อธิบายว่า ผลการประเมิน 12 ประการ แนะว่า การทำนาเกษตรนิเวศรายย่อยอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการเลี้ยงดูผู้หิวโหยและปกป้องโลก

มูลนิธิเก็ตส์ได้ถูกคำถามในอดีต เกี่ยวกับการลงทุน  ในปี 2007 L.A. Times  เปิดโปงว่ามูลนิธิได้ลงทุนในผู้รับทุนของตัวเอง และสำหรับ หุ้นที่ตนถือในบริษัทต่างๆ ที่ไม่ผ่านการทดสอบว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะว่า เฮยเมยกับกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม  เลือกปฏิบัติในการว่าจ้าง  ละเมิดสิทธิคนงาน หรือการกระทำที่ไม่มีจริยธรรม  วารสารไทม์ ติเตียนมูลนิธิว่า ลงทุนอย่างตามืดบอด โดยลงทุนสินทรัพย์อย่างน้อย 41% ของมันใน บริษัทที่ประพฤติตัวตรงข้ามกับเป้าหมายการกุศลหรือปรัชญาที่ห่วงใยสังคม

แม้ว่ามูลนิธิจะได้ประกาศว่า มันจะพิจารณาวิธีปฏิบัติของตนเองใหม่  มันก็ได้ตัดสินใจที่จะยืนหยัดเช่นเดิม  ดังที่ L.A. Times ได้รายงาน  หัวหน้าฝ่ายบริหารของมูลนิธิ Patty Stonesifer ออกมาปกป้องการลงทุนของมัน มันจะเป็นการซื่อจนเซ่อ...ที่จะคิดว่าการเปลี่ยนนโยบายการลงทุนของมูลนิธิจะสามารถยุติความทุกข์ทรทานของมนุษย์ ที่ถูกกล่าวหากันว่าเป็นเพราะปฏิบัติการของบริษัทที่มันได้ลงทุนเป็นพันล้านเหรียญ  การตัดสินใจนี้ เป็นความขัดแย้งโดยตรงกับเจ้าพนักงานของมูลนิธิ  ปรัชญาการลงทุน ตามในเว็บไซท์ของมัน นิยามพื้นที่ๆ กองทุนของมันจะไม่ลงทุน เช่น บริษัทที่โมเดลการทำกำไรผูกรวมศูนย์อยู่กับกิจกรรมของบรรษัทที่ (บิลและเมลินดา) พบว่าชั่วร้าย  ด้วยเหตุนี้ กองทุนนี้จึงไม่ลงทุนในหุ้นบุหรี่และยาสูบ

เมื่อเร็วๆนี้ มูลนิธิได้ถูกโจมตีอย่างแรงในเมืองเกิดของตน  ในสัปดาห์นี้ ชาวเมืองซีแอตเติล 200 คน ส่งโปสการ์ด แสดงความห่วงใยในแนวทางของมูลนิธิต่อการพัฒนาเกษตรว่า แทนที่จะลดความหิวโหยดังที่ได้ประกาศ กลับ เพิ่มหนี้สินให้ชาวนา  ทำให้บรรษัทเกษตรพาณิชย์ร่ำรวย เช่น มอนซานโต และซินเจนตา (Monsanto and Syngenta)  ทำลายสิ่งแวดล้อม และเบียดขับชาวนาเล็กๆให้ไร้ทีทำกิน  นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้มูลนิธิให้ทุนแก่ โครงการที่เหมาะสมทางสังคมและนิเวศ ที่ชาวนาอาฟริกันและนักวิทยาศาสตร์ในท้องถิ่นได้ตัดสินร่วมกัน และสนับสนุนอธิปไตยทางอาหารของอาฟริกา  พวกเขาผลักดันให้มูลนิธิยุติความสัมพันธ์ทั้งปวงกับมอนซานโต และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ

AGRA Watch, a program of Seattle-based Community Alliance for Global Justice, supports African initiatives and programs that foster farmers’ self-determination and food sovereignty. AGRA Watch also supports public engagement in fighting genetic engineering and exploitative agricultural policies, and demands transparency and accountability on the part of the Bill and Melinda Gates Foundation and AGRA.

Heather Day, Director
Community Alliance for Global Justice
206-724-2243

FOR IMMEDIATE RELEASE
August 25th, 2010
Contact:     Travis English, AGRA Watch
(206) 335-4405
Brenda Biddle, The Evergreen State College & AGRA Watch  (360) 878-7833
http://www.seattleglobaljustice.org/agra-watch

From: gigi francisco [mailto:gigi.francisco@gmail.com]
Sent: Thursday, August 26, 2010 8:46 AM
ดรุณี / 8-31-10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น