วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

แรงงานก็เป็นมนุษย์เช่นกัน: สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วย

สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯ
ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของ

พี่ทองใบ  หนูมั่น
อายุ 61 ปี

  ขอให้หลับให้สบายเถอะนะ พี่ทองใบ หนูมั่น
พี่เหนื่อยมามากแล้ว กับการต่อสู้คดีที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 15 ปี และ
อาการเจ็บป่วยด้วยโรคบิสซิโนซิส ปอดเสื่อมสมรรถภาพ ตลอดชีวิต


หลังจากที่พี่ทองใบได้รับเงินชนะคดีที่ศาลฎีกาพิพากษา  ร่วมกับเพื่อนๆ 37 คนเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553ที่ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากโรงงานทอผ้า พี่ทองใบก็ป่วยอ่อดๆแอ่ดเป็นหวัดไอตลอดงาน15 ปีคดีทอผ้า  ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ พี่ทองใบ ก็ไม่ได้มาทราบว่าป่วย และได้จบชีวิตลงอย่างสงบด้วยหัวใจล้มเหลว  เมื่อ วันที่ 27 กุมภาพันธ์  2554   ญาติตั้งศพสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล   ที่วัดบางเดื่อ จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 27-2 มีนาคม 2554และจะทำการณาปนกิจศพในวันพฤหัสที่  3มีนาคม 2554  เวลา 15.00 สามีของพี่ทองใบ ที่เป็นโรคเบาหวานจนต้องตัดขา ที่พี่ทองใบยังมีชีวิตอยู่  พี่แกก็จะเป็นห่วงเป็นใย สามีของแก ดูแลสามีของแกอย่างดีมาตลอด วันนี้เราได้ยินสามีของพี่ทองใบแกพูดอย่างเศร้าโศกเสียใจว่า จัดงานทำให้เขาดีๆนะ เพราะมันเป็นเงินของเขาที่ได้มาจากการชนะคดี
พี่ทองใบ หนูมั่น เป็นผู้หญิงชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่งที่ต้องขายแรงงานมาเลี้ยงจุนเจือครอบครัวและส่งลูกทั้ง  2 คนของแกเรียนจนจบ  แกเข้าโรงงานทอผ้าตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยป้าจำเนียรเป็นคนฝากเข้าพี่ทองใบ ทำงานอยู่แผนกปั่นด้ายโรง 3 เป็นพนักงานประเภท ก สายเขียว  มีหน้าที่ลงด้ายเอาใส่ลัง หลังเขนไปส่งแผนกโอโตคอนเนอร์ พอป่วยยื่นเรื่องเข้ากองทุนเงินทดแทนและเป็นหนึ่งจากเกือบ 200 คนที่ถูกนายจ้างฟ้องเพิกถอนคำวินิจฉัยของกองทุนเงินทดแทน และฟ้องศาลว่า ไปป่วยจากการทำงานเช่นเดียวกับเพื่อนคนงานอื่นๆอีกโดยคดีนี้ศาลยกฟ้องนายจ้าง  เชื่อว่าคนงานป่วยจากการทำงานจริง ต่อมาพี่ทองใบ  ก็ตัดสินใจเข้าร่วมรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ 37 คนเป็นโจทก์ฟ้องโรงงาน เพื่อเรียกค่าเสียหายที่สูญเสียสมรรถภาพปอดและไม่สามารถทำงานอะไรได้อีกต่อไป ต้องลาออกมาอยู่กับบ้านช่วยสามีขายต้นไม้ประดับระยะหนึ่งก็ต้องเลิกทำ เพราะทำไม่ไหว   
ตลอดระยะเวลาของการต่อสู้พี่ทองใบเป็นสมาชิกที่ดีมากคนหนึ่ง  แกไม่เคยท้อแท้เป็นผู้สนับสนุนและผู้ตามที่ดี  กับการร่วมต่อสู้กับกลุ่มผู้ป่วยมาด้วยดีตลอด   คำพูดที่ได้ยิน พี่ แกพูดด้วยทุกครั้งเมื่อถามแก แกก็จะตอบอย่างสม่ำเสมอ พี่เหนื่อยมาก เภา หายใจไม่ค่อยออก เดินไม่ค่อยไหว เมื่อไหร่คดีจะตัดสินสักที พี่จะไปไม่ไหวแล้ว แต่ทุกนัดที่มีการประชุมหรือทำกิจกรรมของกลุ่ม  พี่ทองใบ ก็จะเป็นสมาชิกที่ดี  มาร่วมกิจกรรมไม่ค่อยขาด โดยมาคู่กับป้าเนียรเสมอ นอกเสีย จากว่า วันไหนมาไม่ไหว  ก็จะบอกว่าแย่ไม่สบายพี่ทองใบจะเป็นคนพูดน้อย  ไม่เคยมีปัญหากับใครเลยพี่ทองใบจะเป็นสมาชิกที่ดี สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯและเพื่อนๆคนป่วยทุกคนที่ต่างจะพึ่งรู้สึกยินดีที่ได้รับชัยชนะ  กลับต้องมารู้สึกเศ้ราสลดใจเสียใจอย่างมาก  ไม่นึกเลยว่าพี่ทองใบ  จะต้องมาจากพวกเราไปไวอย่างนี้ โดยไม่มีวันกลับซึ่งพี่ก็ยังไม่ได้ใช้เงินของพี่เลย  ถ้าชาติหน้ามีจริง เภาขอให้พวกเราได้มาพบเจอกันเป็นเพื่อนกันอีก  แต่ขอให้มาพบเจอกันด้วยรอยยิ้มที่เป็นคน  มีสุขภาพอนามัยแข็งแรงดี ไม่ต้องมาเจ็บป่วยเรื้อรังทุกข์ทรมานเพราะการต้องสูญเสียปอดไปอย่างนี้อีกเลยนะ
หลับให้สบายเถอะนะจ้ะพี่ทองใบ  หนูมั่น ต่อไปนี้  พี่ไม่ต้องมาทนหายใจ เหนื่อยหอบอย่างพวกเราอีกต่อไปแล้ว  พี่ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว  คดีก็ชนะแล้ว สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ ที่พวกเราพยายามทุ่มเท  สละทั้งแรงกายแรงใจทุนทรัพย์เท่าที่ผ่านมากำลังจะสำเร็จ  เพื่อความหวังที่จะป้องกันพี่น้องลูกหลานผู้ใช้แรงงานของเราจะได้ไม่ต้องมาสูญเสียสุขภาพอย่างพวกเรา เภากำลังจะร่วมยกร่างสถาบันฯนี้กับกระทรวงแรงงาน ในวันที่ 3 มีนาคมที่จะถึงนี้แล้ว  จะพยายามทำอย่างเต็มที่ให้สมกับเจตนารมณ์ของพี่ทองใบและเพื่อนๆทุกคน ขอให้ดวงวิญญาณของพี่ทองใบ  จงไปสู่สุคติด้วยเทอญ
           
3-1-11

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น