วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

IWNAM ปลอดทหาร

บทแถลงข่าว
IWNAM Secretariat, genuinesecurity@lists.riseup.net
11 เมษายน 2011

การบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูในญี่ปุ่น:
สหรัฐฯ ควรงดรับ งบเห็นใจ ("Sympathy Budget") จากญี่ปุ่น
และยุติการพึ่งพิงแสนยานุภาพกองทัพทั่วโลก
Relief and Recovery in Japan:
U.S. Should Decline Monies from Japan's "Sympathy Budget" and
End Military Dependence Globally

เครือข่ายสตรีนานาชาติต่อต้านลัทธิทหาร (IWNAM, International Women's Network Against Militarism) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่น หยุดใช้เงินภาษีของประชาชนสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ในการธำรงรักษาอุปกรณ์และสาธารณูปโภคของสหรัฐฯ ในประเทศญี่ปุ่นและอาณษเขตอื่นๆ   ในห้วงเวลาของการเกิดภับธรรมชาติต่อเนื่อง ควรผันเงินทุนเพื่อช่วยผู้เคราะห์ร้าย ได้รับความทุกข์ร้อนจากแผ่นดินไหว  สึนามิ และพิษกัมมันตรังสีที่รั่วไหลจากโรงงานพลังนิวเคลียร์ที่ถูกกระทบเสียหายในญี่ปุ่น  รวมทั้งสร้างการจ้างงานทางเลือกทั่วโลก ที่ไม่ต้องพึ่งอำนาจการทหาร  หรือส่งเสริมการกระทำรุนแรงระหว่างบุคคลและต่อระบบนิเวศ
IWNAM เดิมมีชื่อว่า เครือข่ายผู้หญิงในเอเชียตะวันออก-สหรัฐฯ-เปอร์โตริโก ต่อต้านลัมธิการทหาร (East Asia–US-Puerto Rico Women’s Network Against Militarism)  ภายใต้ชื่อเดิมนี้ ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนแนวการจัดสรรใช้จ่ายงบปะมาณการทหารของโลก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของความมั่นคงของประชาชนอย่างแท้จริง   พวกพวกเราเพรียกร้องให้ตัด งบเห็นใจ ซึ่งเป็นงบส่วนที่ประเทศเจ้าภาพ นั่นคือ รัฐบาลญี่ปุ่น ต้องจัดสรรให้ เพื่อทำนุบำรุงกองทัพสหรํฐฯ ที่ประจำการในญี่ปุ่น (ดูรายงานการกำหนดงบประมาณให่ ใน Final Statement, International Women’s Summit to Redefine Security, June 2000.)   งบเห็นใจนี้ ได้ถูกวิจารณ์ว่า ถูกใช้เกินขอบเขตความรับผิดชอบของญี่ปุ่น ภายใต้สนธิสัญญารักษษความมั่นคง สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น   งบนี้ ถูกใช้เป็นเงินเดือนของลูกจ้างชาวญี่ปุ่น  ค่าสาธารณูปโภคสำหรับบุคลากรทหารชาวอเมริกัน  และค่าก่อสร้างอาคารและเครื่องอำนวยความสะดวกหรูหราต่างๆ ในฐานทัพสหรัฐฯ ในประเทศญี่ปุ่น   ในปี 2010  ยอดค่าใช้จ่ายเหล่านี้รวม 189 พันล้านเยน (ประมาณ 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ)   หากรัฐบาลญี่ปุ่นเก็บเงินจำนวนนี้ไว้ ก็จะมีเงินสำหรับช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากแผ่นดินไหวเมื่อเร็วๆ นี้ ในเขต โตฮูกุ  ประชาชนที่อาศัยใกล็ โรงงานพลังนิวเคลียร์ ไดอิชิ-ฟูกูชิมา ที่ถูกบังคับให้ย้ายทั้งชุมชน และชาวนา ชาวประมง ผู้ไม่สามารถขายผลผลิตของตน เพราะความเสี่ยงปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี   ประเทศญี่ปุ่นมีความจำเป็นที่จะใช้เงินจำนวนนี้ เพื่อบูรณะอาณาบริเวณกว้างใหญ่มหาศาล ที่ถูกภัยพิบัติทำลาย  และฟื้นฟูจากการสูญเสียทางเศรษฐกิจและชีวิต  มันไม่ใช่วิธีการที่ยั่งยืนอีกต่อไป ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะฑำรงรักษาฐานทัพสหรัฐฯ ในประเทศญี่ปุ่น  พวกเราเชื่อว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ จะงดรับ งบเห็นใจ นี้  เงินจำนวนนี้ จะสามารถช่วยประชาชนผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น โดยตรง และช่วยสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ IWNAM ขอเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่น ระงับการสร้างระบบสาธารณูปโภคการทหารใหม่ที่ ฮีโนโกะ และ ทาคาเอะ (Henoko and Takae) ในโอกินาวา  รวมทั้งในเกาะกวม  และควรเงินจำนวนนั้น เพื่อช่วยเหลือผู้รอดจากภับธรรมชาติเหล่านี้   ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวในเดือน มีนาคม  กองทัพสหรัฐฯ และกองกำลังญี่ปุ่นเพื่อปกป้องตนเอง  ได้ปรากฏตัวในสายตาสาธารณชนญี่ปุ่นมากขึ้น   ในขณะที่พวกเราประจักษ์ในกิจกรรมช่วยเหลือของกองกำลังทหาร พวกเราไม่ควรลืมว่า วัตถุประสงค์ขั้นต้นของกองทัพ ไม่ใช่เพื่อการกู้ภัยพิบัติ   การฝึกฝนเบื้องต้นของทหาร คือ ทำลาย ศัตรู  ภัยพิบัติธรรมชาติ ไม่ควรถูกใช้เป็นโอกาส เพื่ออ้างหรือสร้างความชอบธรรม ให้แก่อาชีพของประเทศหนึ่ง ประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นวีรบุรุษ  การสร้างความชอบธรรมเช่นนี้ บิดเบือนการพัฒนาแสนยานุภาพการทหารในปัจจุบัน   ลิซา นาติวิดัด (Lisa Natividad) แห่ง เครือข่าย กัวฮานเพื่อสันติและความยุตืธรรม (Guahan Coalition for Peace and Justice) กล่าวว่า
ที่กวม (Guam หรือ Guahan) รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทบทวีเพิ่มงบเป็น $10 พันล้าน หรือรวมเป็น 70% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการขนย้ายฐานทัพเรือสหรัฐฯ จากโอกินาวา ไปยังกวม   ประชาชนในเกาะกวมกำลังประสบปัญหาสุขภาพทรุดโทรม อันเป็นผลจากมลพิษและความเสื่อมโทรมในสิ่งแวดล้อม ที่มาจากฐานการย้ายเข้ามาปักหลักของฐานทัพสหรัฐฯ และตั้งตัวเป็นอาณานิคมปกครองกวม ตั้งแต่ 1898  ยกตัวอย่าง อัตราการป่วยด้วยโรคมะเร็งที่สูงมากบนเกาะ โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดอาศัยอยู่ใกล้ฐานทัพ  นอกจากนี้ ทุกวันนี้ ฐานทัพสหรัฐฯ ได้ใช้พื้นที่ 1/3 ของเกาะ และอยู่ในขั้นตอน ขอ พื่นที่เพิ่มอีก 2,300 เอเคอร์ เพื่อสร้างเป็นสนามฝึกการประจัญบาน บนพืนที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณชาโมร์โร (Chamorro) ในหมู่บ้าน Pagat   การขอพื้นที่เพิ่มนี้ จะทำให้สหรัฐฯ แผ่อำนาจครอบคลุมเกือบ 40% ของเกาะกวม  นั่นคือ ทิ้งที่ดินส่วนน้อยให้ชนพื้นเมืองของเกาะ
เหนือกว่านั้น หลังจากที่พายุเฮอริเคน คาทริน่า ที่ถล่มภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ  แผ่นดินไหวในไฮติ  และน้ำท่วมในฟิลิปปินส์  กองทัพและผลประโยชน์ของการทหาร ได้เก็บเกียวความชอบจากภับพิบัติธรรมชาติเหล่านี้ เพื่อสร้างความชอบธรรมเข้าข้างผลประโยชน์ตัวเอง ให้ก่อสร้างตังเองขึ้นใหม่   หลังากนั้น พื้นที่ต่างๆ เหล่านี้ ก็จะถูกกีดกั้นถาวร  ชุมชนดั้งเดิมที่อาศัยในบริเวณนั้น ย่อมไม่สามารถเข้าไปใช้ผืนดินเลี้ยงชีพ หรือผลิตทางเศรษฐกิจ   พวกเขาได้ประสบกับแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากการตรวจการของทหาร   พวกเรายังจำเป็นต้องพึ่งกองทหารกู้ภัย และแผนฟื้นผู เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เคราะห์ร้าย  แต่พวกเราควรตระหนักอย่างจริงจัง ถึงการร่วมมือที่กำลังเกิดขึ้น ระหว่างพลังลัทธิการทหารและพลังลัทธืทุนนิยม ผู้ไม่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ แต่ฉวยโอกาสห้วงเวลาที่เปราะบางเหล่านี้ เพื่อตอกย้ำและเดินหน้าปกป้องวาระเชิงการเมือง-ภูมิศาสตร์ ของผลประโยชน์ของอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่
การพึ่งพิงอำนาจการทหารเกิดขึ้น เมื่อสถาบันที่ฝักใฝ่ความรุนแรง เป็นผู้ให้งานว้างแก่ประชาชน   ความรุนแรงในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและกับระบบนิเวศ ที่เผยโฉมหน้าเป็นสังคมมากมายที่อิงกองทัพ มักไม่ถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์ของสังคมหนึ่งที่มีระบบกองทัพที่ใหญ่กว่า  เมื่อเร็วๆ นี้ มีกรณีหนึ่งในโอไฮโอ เมื่อสามีที่เคยเป็นทหารอากาศ ได้ตบตีภรรยาที่เกิดในโอกินาวาถึงตาย  แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในเหล่าสังคมอังกองกำลัง  คนทั้งสองพบรักกันใน นาโงะ (Nago) ที่โอกินาวา เมื่อฝ่ายชายประจำการที่นั่น  ทั้งสองแต่งงาน และย้ายกลับมาคลีฟแลนด์ โอไฮโอ   ในวันที่ 11 มีนาคม 2011 ภรรยาถูกสามีทำร้ายสาหัส และถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษา แต่เธอเสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ได้   หนังสือพิมพ์ท่องถิ่น รายงานว่า ฝ่ายชายมีประวัติพฤติกรรมรุนแรงต่อคู่ชีวิตคนก่อน แต่เธอสามารถดิ้นรนหลุดลอดจากความสัมพันธ์นั้น  ตัวอย่างนี้ ชี้ให้เห็นถึงแบบแผนของการเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของพฤติกรรมรุนแรงในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ที่มักเริ่มจากสมาชิกของกองทัพ หรือผู้มีหน้าที่พิทักษ์ (service members)
ในฮาวาย มีสถานีเฮลิคอปเตอร์ที่กระจุกตัวอยู่ที่กองนาวิกโยธิน คานีโอเฮ (Kaneohe Marine Corps Air Station (Oahu). ฝูงบินออสปรีย์ (Ospreys พันทางรหว่างเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินเพื่อขนส่งกองทหาร)  เฮลิคอปเตอร์งูเห่าโจมตี และฝูงบิน Hueys จะตั้งฐานที่ โมคาปู (Mokapu) ที่โออาฮู และฝึกซ้อมบนเกาะบิก (Big Island)   เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2011 เฮลิคอปเตอร์ตก คร่าเสียชีวิตนาวิกโยธินคนหนึ่ง และอีกสามคนบาดเจ็บ   การผลักดันให้สร้างที่อยู่อาศัยและสนามฝึกเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกองยานบินในฮาวาย เป็นผลจากยุทธศาสตร์แสนยานุภาพสหรัฐฯ ในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค ในการเคลื่อนย้ายฐานทำพและกองกำลังจากเกาะหนึ่ง ไปเกาะอื่นๆ  แต่การตัดสินใจเหล่านี้ ละเลยผลกระทบที่เกิดขึ้น ต่อชุมชนท้องถิ่น ในฮาวาย โอกินาวา และประเทศต่างๆ ในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค ที่ซึ่งพัฒนาการของกองทัพ ได้ทวีคูณความรุนแรงและความไม่มั่นคงในชีวิตประจำวัน
ในปี 2009 มีการประเมินว่า ค่าใช้จ่ายของกองทัพทั่วโลกสูงถึง $1,531 พันล้าน  เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2008 และ 49% กับปี 2000   เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2011 สถาบันวิจัยเพื่อสันติสากลแห่งสต็อกโฮม (Stockholm International Peace Research Institute, SIPRI) จะแถลงข่าวผลการคำนวณค่าใช้จ่ายในการทหารโลกในปี 2010  พวกเราประเมินว่า ตัวเลขคงจะทะลุ $1.6 ล้านล้าน  พวกเราได้รวมตัวกัน อันประกอบด้วยกลุ่มรณรงค์เพื่อสันติ  นักกิจกรรมตรวจสอบติดตามการวางงบประมาณ  นักขับเคลื่อนให้มีการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ และพลเมืองที่มีความห่วงใยทั่วโลก ในการร่วมแสดงออกสู่สาธารณะ ด้วยการผนึกกำลังในการขับเคลื่อน และกิจกรรมปลุกจิตสำนึก ความตื่นรู้ เพื่อทำให้สาธารณชนเกิดความประจักษ์ต่อการแบ่งขั้ว ระหว่างการลงทุนมหาศาลของโลกในการทำสงคราม และการละเลยทั่วโลกต่อปัญหาสังคม   โปรดเยียมชมเว็บไซต์ เรื่อง Global Day of Action on Military Spending ที่ http://demilitarize.org/.
IWNAM ขอเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี Barack Obama ดังนี้
1.      งดรับ งบเห็นใจ ของประเทศญี่ปุ่น
2.      ยุติการสร้างฐานกำลังในโอกินาวา กวม ฮาวาย และอาณาเขตอื่นๆ
3.      หยุดสร้างความชอบธรรมให้ลัทธิการทหารในยามภัยพิบัติทางธรรมชาติ
4.      สนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างงานทางเลือก เพื่อยุติการอิงอำนาจกองทัพ

ลายเซ็น ในนามของ IWNAM:

Kozue Akibayashi, Women's International League for Peace and Freedom, Japan
Ellen-Rae Cachola, Women for Genuine Security/Women's Voices Women Speak, U.S. & Hawai'i
Lotlot dela Cruz, KAISAKA, Philippines
Cora Valdez Fabros, SCRAP VFA Movement, Philippines
Terri Keko'olani, DMZ-Hawaii, Hawai'i
Gwyn Kirk, Women for Genuine Security, U.S.
María Reinat Pumarejo, Ilé Conciencia-en-Acción, Puerto Rico
Aida Santos-Maranan, Women's Education, Development, Productivity and Research Organization (WeDpro), Philippines
Kim Tae-jung, Korea
Suzuyo Takazato, Okinawa Women Act Against Military Violence, Okinawa
Lisa Natividad, Guahan Coalition for Peace and Justice, Guahan (Guam)

IWNAM ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เมื่อนักกิจกรรมสตรี นักวางนโยบาย อาจารย์ และนักศึกษา 40 คน จาก เกาหลีใต้ โอกินาวา ญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอเมริกา ได้รวมตัวกันที่โอกินาวา เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกัน เกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบของกองทัพสหรัฐฯ ในประเทศของพวกเรา  ในปี 2000  ผู้หญิงจากเปอร์โตริโก ซึ่งประท้วงการฝึกทิ้งระเบิดของกองทัพเรือสหรัฐฯ บนเกาะ Vieques ได้เข้าร่วมกับพวกเรา   ตามด้วยผู้หญิงจากฮาวาย ในปี 2004 และผู้หญิงากกวม ในปี 2007   เครือข่ายฯ นี้ ไม่ใช่เป็นองค์กรสมาชิก แต่เป็นการรวมตัวระหว่างผู้หญิงที่ทำงานจริงจังในชุมชนของพวกเราเอง  ผู้มุ่งมั่นในพันธกิจร่วมในการทำให้ผืนดินและชุมชนของพวกเราปลอดกำลังทหาร   (
www.genuinesecurity.org)

ดรุณีแปล / 4-17-11

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น