งบผู้หญิงและสหรัฐฯ
การจัดลำดับเศรษฐกิจใหม่สำหรับ 2010 และต่อๆ ไป
Gender Budgeting and the U.S.
Creating New Economic Priorities for 2010 and Beyond
วารสาร “ชีพจรโลก” (World Pulse) ได้มอบหมายให้ เจน มิดจ์ลีย์ นักเศรษฐศาสตร์แนวหน้าและผู้เชี่ยวชาญเรื่อง gender budgeting (การจัดสรรงบประมาณด้วยมิติหญิงชาย) ให้วิเคราะห์งบประมาณปี 2010 ของสหรัฐฯ และช่วยเขียนงบใหม่ให้มีคนเป็นศูนย์กลาง และค่าใช้จ่ายที่ให้เกียรติแก่ผู้หญิง แล้วเธอกลับไปทำอะไร? เธอได้เฉือนงบส่วนการทหารออกและเพิ่มงบให้แก่ที่อยู่อาศัย การศึกษา และสิ่งแวดล้อม มิดจ์ลีย์ เป็นผู้เขียนหนังสือ เรื่อง “ผู้หญิงกับงบประมาณของสหรัฐฯ: เงินของคุณไปที่ไหน และคุณสามารถจะทำอะไรได้กับมัน” (Women and the U.S. Budget: Where Your Money Goes and What You Can Do About It)
งบในมิติหญิงชาย (Gender Budgets) คืออะไร?
โดยทั่วไป คนมักจะเรียกว่า “งบของผู้หญิง” “งบที่อ่อนไหวต่อมิติหญิงชาย” หรือ “งบในมิติหญิงชาย” ("women's budgets," "gender sensitive budgets," or simply "gender budgets") ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่ผสานความจำเป็น/ต้องการพิเศษของผู้หญิงลงในกระบวนการจัดสรรงบประมาณแห่งชาติ--และให้ผู้หญิงนั่งร่วมในกระบวนการเขียนงบด้วย—กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นทั่วโลก ตามคำพูดของ UNIFEM ซึ่งเป็นผู้นำสำคัญในการฝึกอบรมผู้หญิงในการจัดทำงบประมาณที่อ่อนไหวและตอบสนองต่อมิติหญิงชาย งบผู้หญิงต่างจากของผู้ชาย งบผู้หญิงจะให้ความสำคัญต่อค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกัน ก็จะใช้ความอดกลั้น/หักห้ามใจตนเองมากกว่าในเรื่องการเงิน วิธีปฏิบัตินี้ ได้ถูกนำไปใช้ในกว่า 40 ประเทศ งบในมิติหญิงชาย มีศักยภาพที่จะขยับปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญในโลกทุกวันนี้
เอาพายโอบามามาเขียนใหม่
รัฐบาลโอบามาเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ถูก ด้วยการใช้คุณค่าชุดใหม่ในการนำทางการจัดสรรงบประมาณสหรัฐฯ แต่ก็ยังต้องไปอีกไกล
น้ำหนักของงบปัจจุบันเอียงไปทางค่าใช้จ่ายของการหทารและอาวุธยุทโธปกาณ์อย่างมาก ส่วนงบของฉันลดทอนงบสำหรับกองทัพ ความมั่นคงประเทศ (homeland security) และค่าใช้จ่ายสำหรับเรือนจำ ตัดลดอย่างมากในค่าใช้จ่ายในกิจกรรมระหว่างประเทศ เพราะเปอร์เซ็นต์ก้อนใหญ่เป็นการช่วยเหลือด้านการทหารและอาวุธ และเพิ่มค่าใช้จ่ายสำหรับสังคม เช่น ที่อยู่อาศัย การศึกษา และการพัฒนาชุมชน
งบกองทัพสามารถจะลดทอนได้หลายทาง ยกเลิกระบบอาวุธยุทโธปกาณ์ที่ล้าหลังและเกินราคา เช่น เครื่องบินเจ๊ตจู่โจม (F-22 stealth fighter jet) ตัดอาวุธนิวเคลียร์วิถีไกล (สหรัฐฯ และรัสเซียคงมีนับพันๆ ลูก) ตัดระบบป้องกันขีปนาวุธ และยกเลิกโปรแกมการพัฒนาระบบประจัญบานอนาคตของกองทัพให้ทันสมัย (the Future Combat Systems Army modernization program) ซึ่งมีมูลค่า 160 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การตัดงบเหล่านี้ จะต้องประกบด้วยการเน้นเพิ่มการทูต การต่อรอง และสัญญาการลดอาวุธยุทโธปกรณ์ร่วมกัน และต้องยกเลิกนโยบายหลายสิบปี ของการติดอาวุธให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตะวันออกกลาง การเพิ่มในส่วนการใช้จ่ายด้านสังคม จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการทำให้สถานภาพทางเศรษฐกิจของประชาชนสหรัฐฯ เข้มแข็งขึ้น ด้วยการปรับปรุงระบบสวัสดิการสำหรับคนว่างงาน การเลี้ยงดูเด็กสำหรับคนงานที่มีรายได้ต่ำ ปรับปรุงการศึกษาของรัฐ ลดต้นทุนของที่อยู่อาศัย และทำให้การเรียนในระดับวิทยาลัยเข้าถึงได้สำหรับทุกๆ คน การลงทุนเหล่านี้ จะช่วยลดการลงทุนในเรือนจำ ซึ่งจะเป็นอานิสงค์ประการหนึ่งของสังคมที่เคยขาดดุลในด้านการลงทุนที่มีประโยชน์ต่อสังคมมาตลอด
......
ความเห็นจากผู้อ่าน
ขอบคุณสำหรับอาหารสมอง มันเป็นเรื่องน่าตกใจที่เห็นจำนวนเงินมหาศาลที่ทุ่มไปที่กำลังกองทัพ ฉันดีใจที่ยุทธศาสตร์ (งบผู้หญิง) นี้ประกบด้วยการยอมรับ/เน้นถึงความจำเป็นที่ยังจะต้องมีระบบป้องกันประเทศ และเพียงแต่ขยับจุดเน้น ประเทศที่มีความแข็งแรงด้านสังคมเศรษฐกิจมากเท่าไร ก็จะมีฐานะในโลกแข็งแรงขึ้นเท่านั้น ด้วยการลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเกินจำเป็นในการป้องกันประเทศ ปรัชญาที่ง่ายๆ และตรงไปตรงมานี้ ไม่เพียงแต่ดูเข้าท่าในเชิงศีลธรรม แต่รวมถึงเชิงเศรษฐกิจด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น